ถ้อยคำอำลาตำแหน่งของ ดร. อังเกลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี

เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2564 กระทรวงกลาโหมสหพันธ์ได้จัดพิธีกองทหารเกียรติยศครั้งใหญ่โดยกองทัพสหพันธ์ เพื่ออำลาตำแหน่งของ ดร. อังเกลา แมร์เคิล หลังจากที่ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนีติดต่อกันมาเป็นเวลา 16 ปี โดยมีการถ่ายทอดสดผ่านโทรทัศน์สาธารณะ

ในการนี้ ดร. อังเกลา แมร์เคิล ได้ขึ้นกล่าวถ้อยคำอำลา ต่อหน้าแขกผู้มีเกียรติที่เข้าร่วมพิธีและต่อหน้าประชาชนทางบ้าน ขอถอดเทป นำมาแปลและเรียบเรียงแบ่งปันกัน ดังต่อไปนี้


ท่านประธานาธิบดีที่เคารพ ท่านประธานรัฐสภาที่เคารพ ท่านสุภาพสตรีสุภาพบุรุษที่เคารพ และ ประชาชนร่วมประเทศที่เคารพรัก

ในขณะที่ดิฉันยืนอยู่ต่อหน้าท่านวันนี้ ดิฉันรู้สึกท่วมท้นถึงความขอบคุณและความเจียมเนื้อเจียมตัว เจียมเนื้อเจียมตัวกับตำแหน่งที่ดิฉันได้รับโอกาสให้ดำรงมานาน ขอบคุณในความไว้วางใจที่ดิฉันได้รับ ดิฉันสำนึกเสมอว่าความไว้วางใจเป็นต้นทุนสำคัญที่สุดในวงการการเมือง ความไว้วางใจไม่ใช่เรื่องที่จะทึกทักเอาได้ ดิฉันจึงขอขอบคุณจากก้นบึ้งของหัวใจ

ดิฉันขอขอบคุณท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม คุณอันเนเกร็ท และขอบคุณกองทัพสหพันธ์สำหรับการจัดพิธีกองทหารเกียรติยศใหญ่ครั้งนี้ ทั้งยังจัดที่เบนด์เลอร์บล็อค* (Bendlerblock) ซึ่งเป็นสถานที่ที่มีความหมายทางประวัติศาสตร์ของพวกเรา ขอขอบคุณคณะดุริยางค์ของกองทัพสหพันธ์สำหรับการแสดงดนตรีประกอบพิธี ทุกอย่างจัดขึ้นภายใต้เงื่อนไขที่ยากขึ้นเพราะการแพร่ระบาด

[*** หมายเหตุ เบนด์เลอร์บล็อค (Bendlerblock) ปัจจุบันคือตึกที่ทำการแห่งที่สองของกระทรวงกลาโหมสหพันธ์ ในอดีตคณะนายทหารนำโดยกราฟ ฟอน ชเตาฟ์เฟนแบร์กได้ใช้ตึกนี้เป็นที่วางแผนโค่นล้มรัฐบาลเยอรมันภายใต้การนำของพรรคนาซี และเมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม ค.ศ. 1944 ได้พยายามลอบสังหารฮิตเลอร์แต่ไม่เป็นผลสำเร็จ จึงถูกยิงสังหารพร้อมคณะที่ลานด้านในของตึกเบนด์เลอร์บล็อค]

อันดับแรกดิฉันจึงขอระลึกถึงทุกท่านที่ใช่พละกำลังทั้งหมดที่มีพร้อมเพียงกันเพื่อต่อสู้กับคลื่นระบาดลูกที่สี่ ทำทุกวิธีทางเพื่อรักษาและปกป้องชีวิต ท่านคือเหล่าแพทย์และพยาบาลในโรงพยาบาล ทีมฉีดวัคซีน การเอื้อมมือช่วยเหลือจากกองทัพสหพันธ์และองค์กรต่าง ๆ ดิฉันและพวกเราขอขอบพระคุณท่านเป็นอย่างสูงและซาบซึ้งที่สุด

เมื่อบ่ายวันนี้ดิฉันยังนั่งประชุมหารือกับหัวหน้ารัฐบาลของแต่ละรัฐเกี่ยวกับมาตรการรับมือกับการแพร่ระบาดอยู่เลย อีกไม่กี่ชั่วโมงต่อมาตอนนี้ดิฉันได้มายืนกล่าวอำลาพวกท่านหลังจากดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีสหพันธ์มาร่วม 16 ปีภายในงานพิธีครั้งนี้ อย่างน้อยลำดับภารกิจนี้ก็แสดงให้เห็นว่า เรากำลังอยู่ในช่วงเวลาที่น่าเหลือเชื่อแค่ไหน 16 ปีของการเป็นนายกรัฐมนตรีสหพันธ์เต็มไปด้วยเหตุการณ์ต่าง ๆ และมีความท้าทายมากมาย เป็นเวลา 16 ปีที่เรียกร้องในตัวดิฉันทั้งในแง่การเมืองและแง่บุคคล ในขณะเดียวกันก็เป็นเวลา 16 ปีที่เติมเต็มให้ดิฉันเสมอด้วย โดยเฉพาะสองปีของการแพร่ระบาดที่ผ่านมาได้แสดงเสมือนกับแว่นขยายให้เห็นว่า ความไว้วางใจในการเมือง ในวิทยาศาสตร์ และในการทำความเข้าใจของคนในสังคมเพื่อหาทางออกร่วมกันมีความหมายยิ่งใหญ่ขนาดไหน แต่ในขณะเดียวกันความไว้วางใจก็เป็นสิ่งเปราะบางนัก

ระบอบประชาธิปไตยของเราดำรงอยู่ได้ด้วยความสามารถในการแลกเปลี่ยนเชิงวิพากษ์และด้วยความสามารถในการแก้ไขตนเอง มันดำรงอยู่ได้ด้วยการสร้างสมดุลของผลประโยชน์อย่างต่อเนื่องและจากการเคารพซึ่งกันและกัน มันดำรงอยู่ได้ด้วยความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันและด้วยความไว้วางใจ นอกจากนี้มันยังดำรงอยู่ได้ด้วยความไว้วางใจในข้อเท็จจริง และดำรงอยู่ได้ในทุกที่ที่มีเสียงต้านทานการไม่ยอมรับความรู้ทางวิทยาศาสตร์และที่ที่มีเสียงต้านทานการแพร่กระจายทฤษฎีสมคบคิดและการปลุกปั่น ระบอบประชาธิปไตยของเราดำรงอยู่ได้โดยความอดทนของเราในฐานะนักประชาธิปไตยที่ต้องพบขีดจำกัดในทุกที่ที่มีการใช้ความเกลียดชังและความรุนแรงเป็นวิธีการอันชอบธรรมในการแสวงหาผลประโยชน์ของตัวเอง

ความท้าทายภายในที่หลากหลายยังสะท้อนให้เห็นในการดำเนินนโยบายต่างประเทศ ไม่ใช่แค่ตั้งแต่เกิดโรคระบาดเท่านั้น วิกฤตการณ์ทางการเงินและเศรษฐกิจในปี พ.ศ. 2551 และผู้คนจำนวนมากมายที่หาที่ลี้ภัยในปี พ.ศ. 2558 แสดงให้เห็นชัดว่าเรามีความจำเป็นต้องพึ่งพาความร่วมมือระหว่างประเทศมากน้อยแค่ไหน และองค์กรระหว่างประเทศและมาตรการพหุภาคีเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ เพื่อรับมือกับความท้าทายที่ใหญ่หลวงในยุคของเรา ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การแปลงให้เป็นดิจิทัล การหนีภัยและการย้ายถิ่น ในอนาคตดิฉันขอสนับสนุนให้คุณมองโลกผ่านสายตาของอีกฝ่ายเสมอ ทั้งมองจากมุมมองที่บางครั้งอาจจะอึดอัดและตรงกันข้ามของอีกฝั่ง และอุทิศตนเพื่อสร้างสมดุลของผลประโยชน์

ท่านผู้มีเกียรติค่ะ งานการเมืองของดิฉันคงเป็นไปไม่ได้หากปราศจากการสนับสนุนอันหลากหลายจากเพื่อนนักการเมืองทั้งในประเทศและต่างประเทศ ดิฉันขอขอบคุณทุกท่านเป็นอย่างมาก ดิฉันขอขอบคุณเพื่อนร่วมงานในคณะรัฐบาล ในรัฐสภา และในสภาผู้แทนรัฐ ที่ให้ความร่วมมือในการทำงาน ดิฉันขอขอบคุณวัฒนธรรมโต้เถียงทางการเมืองของเราที่หลายชาติต่างอิจฉา ฉันขอเน้นขอบคุณเพื่อนร่วมงานที่ใกล้ชิดทุกคนมากเป็นพิเศษ ขอบคุณที่ช่วยเหลือและสนับสนุนทุกอย่าง และขอขอบคุณครอบครัวของดิฉันด้วยเช่นกัน

ต่อนี้ไปก็ขึ้นอยู่กับรัฐบาลชุดต่อไปที่จะค้นหาคำตอบสำหรับความท้าทายที่รออยู่ข้างหน้าและที่จะกำหนดอนาคตของเรา คุณโอลาฟ ชอลซ์ ค่ะ ดิฉันขออวยพรให้คุณและคณะรัฐบาลของคุณประสบแต่สิ่งที่ดี โชคดีมีชัย และประสบความสำเร็จ ดิฉันเชื่อมั่นว่าเราจะสามารถกำหนดอนาคตให้ดีต่อไปได้ ถ้าหากเราลงมือทำงานโดยปราศจากความไม่พอใจ ความริษยา และการมองโลกในแง่ร้าย แต่ด้วยความร่าเริงเบิกบานในหัวใจ อย่างที่ดิฉันเคยพูดในงานหนึ่งเมื่อสามปีที่แล้ว อย่างไรก็ตามดิฉันได้ถือปฏิบัติแบบนี้เสมอมาตั้งแต่สมัยเยอรมันตะวันออก และยิ่งกว่านั้นดิฉันยังถือปฏิบัติมากขึ้นภายใต้ระบอบเสรีภาพ ความร่าเริงเบิกบานในหัวใจนี้ดิฉันขอปรารถนาให้กับเราทุกคน และในความหมายเปรียบเปรยสำหรับประเทศของเราในอนาคตเช่นกัน

ดิฉันขอขอบคุณท่านจากก้นบึ้งของหัวใจ ♥

. . .

ถอดเทป แปลและเรียบเรียงโดย @Tutu Mukda

 


 

ต้นฉบับถ้อยคำอำลา โดยทอดเทปจากคลิปถ่ายทอดสด [YouTube]

 

Abschiedsrede von Dr. Angela Merkel beim Großen Zapfenstreich am 02. Dezember 2021.

Sehr geehrter Herr Bundespräsident, sehr geehrte Frau Bundestagspräsidentin, Exzellenzen, sehr geehrte Damen und Herren, liebe Mitbürgerinnen, liebe Mitbürger,

wenn ich heute hier vor Ihnen stehe, dann empfinde ich vor allem dieses: Dankbarkeit und Demut – Demut vor dem Amt, das ich so lange ausüben durfte; Dankbarkeit für das Vertrauen, das ich erfahren durfte. Vertrauen, dessen war ich mir immer bewusst, ist das wichtigste Kapital in der Politik. Es ist alles andere als selbstverständlich, und dafür danke ich von ganzem Herzen.

Mein Dank gilt auch Ihnen, Frau Bundesministerin, liebe Annegret, und der Bundeswehr für die Ausrichtung des Großen Zapfenstreichs – noch dazu an diesem in unserer Geschichte so bedeutsamen Ort des Bendlerblocks. Mein Dank gilt auch dem Stabsmusikkorps der Bundeswehr für die musikalische Begleitung – alles unter den so erschwerten Bedingungen der Pandemie.

Besonders möchte ich deshalb zu Beginn auch an die denken, die sich zeitgleich mit all ihrer Kraft der vierten Welle der Pandemie entgegenstemmen, die alles geben, um Leben zu retten und zu schützen: die Ärztinnen und Ärzte, die Pflegerinnen und Pfleger in den Krankenhäusern, die Impfteams, die helfenden Hände in der Bundeswehr und in den Hilfsorganisationen. Ihnen allen gebühren mein und unser aller besonderer Dank und höchste Anerkennung.

Heute am Tage habe ich mit den Regierungschefinnen und Regierungschefs der Länder noch in einer weiteren Pandemieberatung zusammengesessen. Jetzt, wenige Stunden später, darf ich mich in diesem feierlichen Rahmen nach 16 Jahren als Bundeskanzlerin von Ihnen verabschieden. Wenig zeigt so sehr wie diese Abfolge, in welch unglaublicher Zeit wir derzeit leben. Die 16 Jahre als Bundeskanzlerin waren ereignisreiche und oft sehr herausfordernde Jahre. Sie haben mich politisch und menschlich gefordert, und zugleich haben sie mich immer auch erfüllt. Ganz besonders die vergangenen zwei Jahre der Pandemie haben wie in einem Brennglas gezeigt, von welch großer Bedeutung das Vertrauen in Politik, Wissenschaft und den gesellschaftlichen Diskurs ist, aber auch, wie fragil das sein kann.

Unsere Demokratie lebt von der Fähigkeit zur kritischen Auseinandersetzung und zur Selbstkorrektur. Sie lebt vom steten Ausgleich der Interessen und von dem Respekt voreinander. Sie lebt von Solidarität und Vertrauen, im Übrigen auch von dem Vertrauen in Fakten und davon, dass überall da, wo wissenschaftliche Erkenntnis geleugnet und Verschwörungstheorien und Hetze verbreitet werden, Widerspruch laut werden muss. Unsere Demokratie lebt auch davon, dass überall da, wo Hass und Gewalt als legitimes Mittel zur Durchsetzung eigener Interessen erachtet werden, unsere Toleranz als Demokratinnen und Demokraten ihre Grenze finden muss.

Die vielfältigen Herausforderungen im Innern spiegeln sich auch im außenpolitischen Handeln wider, und zwar nicht erst seit der Pandemie. Denn schon die Finanz- und Wirtschaftskrise 2008 und die vielen Zuflucht suchenden Menschen 2015 haben deutlich gemacht, wie sehr wir auf die Zusammenarbeit über nationale Grenzen hinweg angewiesen sind und wie unverzichtbar internationale Institutionen und multilaterale Instrumente sind, um die großen Herausforderungen unserer Zeit bewältigen zu können: den Klimawandel, die Digitalisierung, Flucht und Migration. Ich möchte dazu ermutigen, auch zukünftig die Welt immer auch mit den Augen des anderen zu sehen, also auch die manchmal unbequemen und gegensätzlichen Perspektiven des Gegenübers wahrzunehmen, sich für den Ausgleich der Interessen einzusetzen.

Meine Damen und Herren, meine politische Arbeit wäre ohne die vielfältige Unterstützung politischer Weggefährten, national wie international, nicht möglich gewesen. Ihnen allen gilt mein großer Dank. Ich danke den Kolleginnen und Kollegen in der Bundesregierung, im Deutschen Bundestag und im deutschen Bundesrat für unsere Zusammenarbeit. Ich danke auch für eine politische Streitkultur, um die uns viele andere Nationen beneiden. Einen ganz besonderen, herausgehobenen Dank schulde ich meinen engsten Mitarbeiterinnen und Mitarbeitern. Danke für alle Hilfe und alle Unterstützung, und das gilt auch für meine Familie.

Nun wird es an der nachfolgenden Regierung liegen, Antworten auf die vor uns liegenden Herausforderungen zu finden und unsere Zukunft zu gestalten. Hierfür wünsche ich Ihnen, lieber Olaf Scholz, und der von Ihnen geführten Bundesregierung alles, alles Gute, eine glückliche Hand und viel Erfolg. Ich bin überzeugt, dass wir die Zukunft auch weiterhin dann gut gestalten können, wenn wir uns nicht mit Missmut, mit Missgunst, mit Pessimismus, sondern, wie ich vor drei Jahren in einem anderen Rahmen gesagt habe, mit Fröhlichkeit im Herzen an die Arbeit machen. So jedenfalls habe ich es immer für mich gehalten, in meinem Leben in der DDR und erst recht und umso mehr unter den Bedingungen der Freiheit. Es ist diese Fröhlichkeit im Herzen, die ich uns allen und im übertragenen Sinne unserem Land auch für die Zukunft wünsche.

Ich danke Ihnen von Herzen. ♥

. . .