สื่อไทยลงข่าวว่าจีนกำหนดเป้าหมายเศรษฐกิจโดยจะหันมาพึ่งตลาดในประเทศมากขึ้น สืบเนื่องมาจากผลกระทบจากทั้งการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาและการต่อสู้ทางการค้า (www.posttoday.com)
หลายประเทศคงคิดวางเป้าหมายคล้ายกัน โดยจะหันมาพึ่งตัวเองเป็นหลักหรือพึ่งตัวเองมากขึ้น เช่น อินเดีย (www.hindustantimes.com/india-news)
ท่าทีของรัฐบาลเยอรมันในขณะนี้คือพยุงบริษัทและธุรกิจที่ได้ผลกระทบไปก่อน ส่วนเป้าหมายเศรษฐกิจในอนาคตนั้น ดูท่าทีแล้วรัฐบาลน่าจะยังคงเน้นกลุ่มธุรกิจที่เป็นหัวใจสำคัญเอาไว้ เช่น ยานยนต์ เครื่องจักรและอุปกรณ์ เคมีและยา เครื่องใช้ไฟฟ้า และอาหาร ส่วนการจะปรับโหมดมาพึ่งตัวเองให้มากขึ้น รัฐบาลยังไม่แสดงท่าทีชัดเจน เพราะการส่งออกและการค้าขายกับต่างประเทศยังเป็นกุญแจหลักของเศรษฐกิจเยอรมัน แต่วิกฤติไวรัสโคโรนาได้ทำให้เห็นแล้วว่าการจะพึ่งแต่สินค้าบางประเภทจากต่างประเทศนั้น เช่น หน้ากาก อนามัย ผ้าใยกรอง น้ำยาฆ่าเชื้อ ชุดป้องกัน เป็นต้น ทำให้เกิดการขาดแคลนได้ รัฐบาลคงต้องมาดูในระยะยาวว่าสินค้าชนิดใดที่มีความจำเป็นต่อชีวิตและความเป็นอยู่ของคนในประเทศ (systemrelevant/Deutschland-relevant) โดยไม่ต้องพึ่งตลาดโลก แต่ในขณะเดียวกันเยอรมนีไม่สามารถจะหันหลังให้กับตลาดโลกได้ เพราะตัวเองคือพ่อค้าคนหนึ่งที่อาศัยผลประโยชน์จากตลาดโลกเช่นกัน
อย่างไรก็ดี ปีนี้รัฐบาลเยอรมันคงเน้นการพยุงเศรษฐกิจไปก่อน โดยเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา รัฐบาลเยอรมันรวมกับกระทรวงเศรษฐกิจและพลังงานสหพันธ์ได้ประเมินว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศปี 2020 จะติดลบร้อยละ 6.3 เนื่องจากวิกฤติการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาขนาดใหญ่ทั่วโลกทำให้เศรษฐกิจเกิดภาวะถอถอย (Recession) และคาดการณ์ว่าปี 2021 เศรษฐกิจเยอรมันจะฟื้นตัว โดยประเมินว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศปี 2021 จะขยายตัวร้อยละ 5.2 นอกจากนี้แล้ว ยังประเมินว่ามูลการส่งออกซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของเศรษฐกิจเยอรมันในปี 2020 ก็จะติดลบเช่นกัน ดังตารางต่อไปนี้ (Schlaglichter der Wirtschaftspolitik, Ausgabe Mai 2020, BMWi)
ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ เปลี่ยนแปลงเปรียบเทียบกับปีที่แล้ว (ณ ราคาที่แท้จริง) | 2019 (%) | 2020 (%) | 2021 (%) |
---|---|---|---|
ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ | 0.6 | -6.3 | 5.2 |
การอุปโภคบริโภคของครัวเรือน (รวมองค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำไร) | 1.6 | -7.4 | 6.5 |
การอุปโภคของรัฐ | 2.6 | 3.7 | 1.3 |
การลงทุนในเครื่องจักร/อุปกรณ์ อาคารสถานที่ และ facilities | 2.6 | -5.0 | 3.5 |
การส่งออก | 0.9 | -11.6 | 7.6 |
การนำเข้า | 1.9 | -8.2 | 6.5 |
ดัชนีผู้บริโภค | 1.4 | 0.5 | 1.5 |
อัตราว่างงาน | 2.27 | 2.62 | 2.46 |
องค์กรอื่นประเมินเศรษฐกิจเยอรมันและพยากรณ์ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศของเยอรมนีในปี 2020 และ ปี 2021 แตกต่างกัน ดังตารางด้านล่างนี้
องค์กร | 2020 (%) | 2021 (%) | พยากรณ์เมื่อ |
---|---|---|---|
คณะกรรมาธิการยุโรป | -6.5 | +5.9 | พฤษภาคม 2020 |
ธนาคารเพื่อการพัฒนาและการฟื้นฟู (KfW) | -6.0 | +5.0 | พฤษภาคม 2020 |
กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) | -7.0 | +5.2 | เมษายน 2020 |
การพยากรณ์ร่วมกันของสถาบันเศรษฐศาสตร์ชั้นนำ | -4.2 | +5.8 | เมษายน 2020 |
สถาบันเศรษฐศาสตร์โลก IfW Kiel | -4.5 | +7.2 | มีนาคม 2020 |
คณะผู้เชี่ยวชาญประเมินการพัฒนาของเศรษฐกิจโดยรวม | -2.8 | +3.7 | มีนาคม 2020 |
สถาบันวิจัยเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยนครมิวนิค (ifo) | -1.5 | +3.7 | มีนาคม 2020 |
สถาบันวิจัยเศรษฐศาสตร์ DIW | -0.1 | +1.7 | มีนาคม 2020 |
องค์การเพื่อความร่วมมือและการพัฒนาทางเศรษฐกิจ (OECD) | +0.3 | +0.9 | มีนาคม 2020 |
ธนาคารกลางเยอรมัน | +0.6 | +1.4 | ธันวาคม 2019 |
อ้างอิง
- Schlaglichter der Wirtschaftspolitik, Ausgabe Mai 2020, BMWi
- KfW-Konjunkturkompass: https://www.kfw.de/PDF/Download-Center/Konzernthemen/Research/PDF-Dokumente-KfW-Konjunkturkompass/KfW-Konjunkturkompass_D_EZ_Mai_2020.pdf
- www.tagesschau.de: https://www.tagesschau.de/wirtschaft/konjunkturprognose114.html?fbclid=IwAR10NMX7zB1z2UI7zN3kaH3bBNmrhFJffGp11ebPB4JoaNmqC_FMeAXGifs
หมายเหตุ: โพสต์ลง Facebook 25 พฤษภาคม 2563
Photo: Maurizio Gambarini/ picture-alliance/ dpa (ตู้คอนเทนเนอร์ที่ท่าเรือนครฮัมบวร์ก)